วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553
รูปแบบการเชื่อมต่อในระบบเน็ตเวิร์ก
จากการพัฒนาด้านเทคโนโลยี และความสามารถด้าน HW ที่สูงมาก ขึ้นทำให้ความต้องการการเชื่อมต่อความเร็วสูง มีมากขึ้นตามไปด้วยทำให้หลายๆ องค์กรต้องนำเสนอโซลูชั่นเพื่อ แก้ปัญหา หรือขยายขอบเขตการ เชื่อมต่อระหว่างองค์กร หรือภายในองค์กรเอง ทั้งในที่เดียวกัน และสาขา ทั้งเพื่อความรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย บทความนี้จึงขอนำเสนอเกี่ยวกับการเชื่อมต่อในเกือบๆ ทุกรูปแบบ ที่มีให้บริการได้จริงและใช้งานได้จริงในประเทศไทย เพื่อให้เป็นความรู้และแนนทางในการพัฒนาระบบต่อไป (ปล. สงสัยประการใด หรือขอข้อมูลแบบระเอียดใน Service ใดสามารถติ ตดิอได้ทาง E-Mail ครับ)
ปกติการสร้างเครือข่าย LAN สาย UTP คือทางเลือก อันดับแรกที่เราจะเลือกใช้ แต่ก็มีบ่อย ครั้งที่ระยะทางของอุปกรณ์เครือข่ายนั้นมีระยะทางมากกว่า 100 เมตรซึ่งเป็น ข้อจำกัดของสาย UTP ซึ่งวันนี้มี เทคโนโลยีที่สามารถนำมาเลือกใช้ได้ดังนี้
- การติดตั้ง Repeater หรือ Switching Hub ไว้ทุกๆ 100 เมตร
- 56K Modem: Back to Back
- Fiber Optic
- Wireless LAN
- VDSL
- G.SHDSL
- ADSL
- ISDN
- Leased Line
- Firewall/VPN Firewall/VPN IP Sec
- VPN
- Frame Relay
- Virtual Leased Line(VLL)
โดยแต่ละ เทคโนโลยีก็มี ข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป แต่ในฐานะผู้ดูและเครือข่าย ก็จำเป็นต้อง เลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุด โดยต้องคำนึง ถึงประสิทธิภาพของการรับส่งข้อมูล และที่สำคัญ ต้องเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
การติดตั้ง Repeater หรือ Switching Hub ไว้ทุกๆ 100 เมตร
จาก ข้อจำกัดของระยะทางระหว่างอุปกรณ์ (Network Node) ที่ติดตั้งระยะหว่าง Hub ผ่าน สาย UTP นั้นจะมีข้อจำกัดที่ระยะทาง 100 เมตร โดยหากเราต้องการขยายระยะทางของเครือข่าย จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์ Repeater ซึ่ง ก็คือ Hub ไว้ทุกๆ 100 เมตร การใช้วิธีนี้ สามารถทำได้ หากเครือข่ายนั้นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการติดตั้ง อุปกรณ์ Repeater แต่ในสภาพ
56K Modem:
56K โมเด็มเป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต แบบดังเดิม โดยผู้ใช้บริการสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโดยการหมุน โมเด็มไปยัง ISP โดยผ่านสาย โทรศัพท์ แต่สำหรับผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตในที่พักอาศัย ต้องพบกับอุปสรรค์ในการใช้งาน เพราะนอกจากจะมีความเร็วต่ำแล้วโดยปกติระบบโทรศัพท์ใน โรงแรมจะผ่านระบบ PABX ซึ่ง โดยมากจะตัดตามระยะเวลาที่กำหนด ความเร็วในการเชื่อมต่อจะถูกลดทอนลง เหลือเพียง 33.6 Kbps เท่า นั้นและยังมีปัญหาเดิม คือ สายไม่ว่าง และสายหลุดอยู่เป็นประจำ
การเชื่อมต่อ LAN ระยะ ไกลด้วย 56K โมเด็มนั้น ถึงแม้จะสามารถทำได้ง่ายและต้นทุนต่ำ แต่ความเร็วของการเชื่อมต่อนั้นทำได้ด้วยความเร็วสูงสุด เพียง 33.6Kbps เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งานสำหรับเครือข่าย LAN อย่างแน่นอนแต่ 56K โมเด็ม น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับการเชื่อมต่อ PC หนึ่ง เครื่องเข้ากับเครือข่ายหลักเท่านั้น
Fiber Optic
แต่ก่อนทางออก สำหรับเครือข่าย LAN ระยะ ไกลนั้นก็คือ Fiber Opticซึ่งหากจะว่าไป แล้ว Fiber Optic ถือว่าเป็น เทคโนโลยีที่ดีที่สุด เร็วที่สุด แต่ก็แพงที่สุดเช่นกัน ซึ่งหากคำนวณค่าใช้จ่ายต่อจุดที่จะติดตั้งออกมาแล้ว ทั้งค่าสาย Fiber Optic ค่าแรงในการติด ตั้ง และค่าบำรุงรักษา อาจจะสูงเกินกว่างบประมาณที่ตั้งไว้มากทีเดียว และหากมองในแง่ของการใช้งาน ที่ต้องติดตั้ง Fiber Optic เพื่อรองรับเครื่องคอมพิวเตอร์เพียง 4-5 ตัวแล้ว ดูจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าเสียเลย
แต่ก่อนทางออก สำหรับเครือข่าย LAN ระยะ ไกลนั้นก็คือ Fiber Opticซึ่งหากจะว่าไป แล้ว Fiber Optic ถือว่าเป็น เทคโนโลยีที่ดีที่สุด เร็วที่สุด แต่ก็แพงที่สุดเช่นกัน ซึ่งหากคำนวณค่าใช้จ่ายต่อจุดที่จะติดตั้งออกมาแล้ว ทั้งค่าสาย Fiber Optic ค่าแรงในการติด ตั้ง และค่าบำรุงรักษา อาจจะสูงเกินกว่างบประมาณที่ตั้งไว้มากทีเดียว และหากมองในแง่ของการใช้งาน ที่ต้องติดตั้ง Fiber Optic เพื่อรองรับเครื่องคอมพิวเตอร์เพียง 4-5 ตัวแล้ว ดูจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าเสียเลย
Wireless LAN เทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นและน่าสนใจมากเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาคือ Wireless LAN เราต้องยอมรับว่า Wireless LAN ช่วยให้การติดตั้งเครือข่าย LAN ง่ายขึ้นมาก ไม่จำเป็นต้องลากสายใดๆ เพียงติดตั้ง Access Point และ PC Card ที่ เครื่องลูกข่ายเท่านั้น แต่Wireless LAN น่าจะเหมาะสมสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด มากกว่าการนำมาติดตั้งเพื่อใช้ระหว่างอาคาร ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีอุปกรณ์ที่ช่วยขยายสัญญาณของ Wireless LAN ให้สามารถส่งไปได้ไกลขึ้น แต่นอกจากต้นทุนยังสูงมากๆแล้ว ความน่าเชื่อถือของคุณภาพสัญญาณ ที่มีความอ่อนไหวต่อสภาวะแวดล้อมนั้น ก็เป็นสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณามากเลยทีเดียว
การให้บริการอินเตอร์ เน็ตแบบไร้สายความเร็วอินเตอร์เน็ตตามมาตรฐาน IEEE 802.11b 11Mbps และ 802.11g ที่ ความเร็ว 54 Mbps เหมาะสำหรับรอง รับการให้บริการอินเตอร์เน็ตในบริเวณ Lobby, สระ ว่ายน้ำหรือห้องประชุมสัมมนา ที่ไม่สามารถเดินสายได้ จุดด้อยของระบบนี้คือต้องติดตั้งอุปกรณ์ Access Point ทุกจุดที่ต้องการให้รัศมีครอบคลุมการใช้งาน รวมถึงปัญหาสิ่งที่กีดขวางต่างๆ เช่น ผนังห้อง, เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ที่ทำให้ระยะทาง ไม่ครอบคลุมพื้นได้ทั้งหมด อีกทั้งความแรงของสัญญาณก็ไม่สม่ำเสมอและอาจก่อให้เกิดสาย หลุดบ่อยๆได้
VDSL
เป็นเทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับการใช้งานระบบ Internet ได้ในความเร็วสูงถึง 15Mbps ได้ ระยะทางที่ไกลสุงสูด 1.2 กิโลเมตร และที่สำคัญ เทคโนโลยี VDSL นั้น สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานกับสายโทรศัพท์ธรรมดา ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดเด่นของเทคโนโลยี VDSL เลยก็ว่าได้ เนื่องจากจะเห็นได้ว่าอาคารประเภท MxU ทุกแห่งนั้นจะต้องมีการเดินสายโทรศัพท์ภายในอาคารไปตาม ห้องพักต่างๆ อยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อเราต้องการเพิ่มเติมระบบ Internet ให้ กับห้องพักต่างๆ ในอาคารแล้ว ด้วยเทคโนโลยี VDSL เราไม่จำเป็นต้องทำการเดินสายเคเบิล UTP หรือสาย Fiber เพิ่ม เติมเลย เพราะว่าเราสามารถนำเทคโนโลยี VDSL เข้า มาใช้งานร่วมกับระบบสายโทรศัพท์เดิมได้เลย ซึ่งจะทำให้เราสามารถให้บริการระบบ Internet ไปยังห้องต่างๆ ภายในอาคารโดยอาศัยสายโทรศัพท์เป็นตัวรับ-ส่งข้อมูล พร้อมกันนั้นเรายังสามารถใช้งานระบบโทรศัพท์ได้เหมือนเดิม อีกด้วย ซึ่งสำหรับการติด ตั้งอุปกรณ์ VDSL นั้น จะเป็นการติดตั้งในลักษณะ จุด-ต่อ-จุด หรือ Point-to-Point โดยที่อุปกรณ์ฝั่งหนึ่งจะเป็นอุปกรณ์ด้าน Provider สำหรับต่อเข้ากับแผง MDF เดิม ของระบบโทรศัพท์ ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นอุปกรณ์ด้าน Subscriber ซึ่งจะติดตั้งอยู่ตามห้องพักต่างๆ ของอาคารตามรูปการเชื่อมต่อ ซึ่งหลังจากติดตั้งอุปกรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะทำให้ตามห้องพักต่างๆ สามารถใช้งานระบบ Internet ความ เร็วสูงได้ และยังสามารถใช้ ระบบโทรศัพท์ภายในตามห้องพัก หรือตามเบอร์ Extension ต่างๆ ได้ตามปกติอีกด้วย
จุดเด่นของ VDSL ที่เหนือเทคโนโลยีอื่นๆ
· รองรับการใช้งานระบบ Internet ความ เร็วสูง โดยสามารถรองรับ ความเร็วได้สูงสุดถึง 10 Mbps Full-Duplex Ethernet
· รองรับระยะทางในการใช้งานได้สูงสุดถึง 1.2 กิโลเมตร
· สามารถ ใช้งานได้กับสายโทรศัพท์ตั้งแต่ Category 1, 2, 3 หรือ 5 ทำ ให้ไม่จำเป็นต้องเดินสายเคเบิล UTP หรือ Fiber ใหม่เลย
· สัญญาณรบกวนต่างๆ (Noise) มี ผลกับการใช้งานน้อยมาก
· มี ความสามารถในการทำ Traffic Shaping ทั้งการรับ-ส่งข้อมูลแบบ Upstream และ Downstream
· ติดตั้งและใช้งานได้โดยง่าย
· สามารถใช้ระบบ Internet ความ เร็วสูงได้โดยไม่มีผลกระทบกับระบบโทรศัพท์เดิม
เป็นเทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับการใช้งานระบบ Internet ได้ในความเร็วสูงถึง 15Mbps ได้ ระยะทางที่ไกลสุงสูด 1.2 กิโลเมตร และที่สำคัญ เทคโนโลยี VDSL นั้น สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานกับสายโทรศัพท์ธรรมดา ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดเด่นของเทคโนโลยี VDSL เลยก็ว่าได้ เนื่องจากจะเห็นได้ว่าอาคารประเภท MxU ทุกแห่งนั้นจะต้องมีการเดินสายโทรศัพท์ภายในอาคารไปตาม ห้องพักต่างๆ อยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อเราต้องการเพิ่มเติมระบบ Internet ให้ กับห้องพักต่างๆ ในอาคารแล้ว ด้วยเทคโนโลยี VDSL เราไม่จำเป็นต้องทำการเดินสายเคเบิล UTP หรือสาย Fiber เพิ่ม เติมเลย เพราะว่าเราสามารถนำเทคโนโลยี VDSL เข้า มาใช้งานร่วมกับระบบสายโทรศัพท์เดิมได้เลย ซึ่งจะทำให้เราสามารถให้บริการระบบ Internet ไปยังห้องต่างๆ ภายในอาคารโดยอาศัยสายโทรศัพท์เป็นตัวรับ-ส่งข้อมูล พร้อมกันนั้นเรายังสามารถใช้งานระบบโทรศัพท์ได้เหมือนเดิม อีกด้วย ซึ่งสำหรับการติด ตั้งอุปกรณ์ VDSL นั้น จะเป็นการติดตั้งในลักษณะ จุด-ต่อ-จุด หรือ Point-to-Point โดยที่อุปกรณ์ฝั่งหนึ่งจะเป็นอุปกรณ์ด้าน Provider สำหรับต่อเข้ากับแผง MDF เดิม ของระบบโทรศัพท์ ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นอุปกรณ์ด้าน Subscriber ซึ่งจะติดตั้งอยู่ตามห้องพักต่างๆ ของอาคารตามรูปการเชื่อมต่อ ซึ่งหลังจากติดตั้งอุปกรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะทำให้ตามห้องพักต่างๆ สามารถใช้งานระบบ Internet ความ เร็วสูงได้ และยังสามารถใช้ ระบบโทรศัพท์ภายในตามห้องพัก หรือตามเบอร์ Extension ต่างๆ ได้ตามปกติอีกด้วย
จุดเด่นของ VDSL ที่เหนือเทคโนโลยีอื่นๆ
· รองรับการใช้งานระบบ Internet ความ เร็วสูง โดยสามารถรองรับ ความเร็วได้สูงสุดถึง 10 Mbps Full-Duplex Ethernet
· รองรับระยะทางในการใช้งานได้สูงสุดถึง 1.2 กิโลเมตร
· สามารถ ใช้งานได้กับสายโทรศัพท์ตั้งแต่ Category 1, 2, 3 หรือ 5 ทำ ให้ไม่จำเป็นต้องเดินสายเคเบิล UTP หรือ Fiber ใหม่เลย
· สัญญาณรบกวนต่างๆ (Noise) มี ผลกับการใช้งานน้อยมาก
· มี ความสามารถในการทำ Traffic Shaping ทั้งการรับ-ส่งข้อมูลแบบ Upstream และ Downstream
· ติดตั้งและใช้งานได้โดยง่าย
· สามารถใช้ระบบ Internet ความ เร็วสูงได้โดยไม่มีผลกระทบกับระบบโทรศัพท์เดิม
G.SHDSL
G.SHDSL คืออีกเทคโนโลยีหนึ่งในตระกูล DSL ซึ่งความสามารถพิเศษของเทคโนโลยีนี้คือ สามารถช่วยให้คุณขยายเครือข่าย LAN ให้ ไกลได้ถึง 6 กิโลเมตร โดยผ่านสายทองแดง(สายโทรศัพท์) ด้วยความเร็ว 2.3Mbps
G.SHDSL มีสองประเภทคือ แบบ 2-wire (ใช้สายทองแดง 2 เส้น) และแบบ 4-wire (ใช้ สายทองแดง 4 เส้น) โดยแบบ 2-wire สามารถรับส่งข้อมูลที่ความเร็วสูงสุด 2.3 Mpbs ส่วนแบบ 4-wire นั้น สามารถทำได้ที่ 4.6Mpbs G.SHDSL Modem มีคุณสมบัติสำคัญคือ สัญญาณมีเสถียรภาพสูงมาก จึงทำให้ G.SHDSL กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานในการให้บริการ Leased Line ในอนาคต และนอกจากนั้น G.SHDSL ยัง มี Interface ที่หลากหลายทั้งแบบ Ethernet, V.35 และ E.1(G.703) ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ
ADSL
เป็น เทคโนโลยีสำหรับผู้ที่ต้องการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ตั้งแต่ 128Kbps ไปจนถึง 4Mbps เลยทีเดียว ซึ่งสูงพอที่จะรองรับข้อมูลประเภทมัลติมีเดีย ซึ่งได้แก่ภาพวิดีโอและเสียงได้ และยังเป็นการสื่อสารข้อมูลในระบบดิจิตอล อีกทั้งยังไม่ต้องหมุนโทรศัพท์ก่อนการใช้งาน เนื่องจาก ADSL เชื่อมต่อกับ ISP อยู่ ตลอดเวลา เพียงทำการ Logon เท่า นั้น อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่ใช้เพิ่มเติมมาใช้กับระบบ ADSL ซึ่ง ได้แก่ ADSL Modem ในกรณีที่ต้องการ เชื่อมต่อเพื่อใช้งานประเภทบุคคลธรรมดา ซึ่งราคาจะแพงกว่าโมเด็มอนาล็อกปกติพอสมควร หรือจะเป็นอุปกรณ์ ADSL Router ที่โดยมากจะใช้เชื่อมต่อเพื่อการใช้งานในระบบที่ใหญ่กว่า ซึ่งราคาจะแพงขึ้นไปอีก ADSL มีผู้นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน แต่การขอใช้บริการ ADSL ผู้ ใช้งานจำเป็นต้องมีโทรศัพท์สายตรง ซึ่งปกติโรงแรม ส่วนใหญ่ไม่มีบริการโทรศัพท์สายตรงในแต่ละห้องพักอาศัย ดั้งนั้น ผู้เข้าพักอาศัย ในโรงแรมจึงไม่สามารถใช้บริการ ADSL ได้
เป็น เทคโนโลยีสำหรับผู้ที่ต้องการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ตั้งแต่ 128Kbps ไปจนถึง 4Mbps เลยทีเดียว ซึ่งสูงพอที่จะรองรับข้อมูลประเภทมัลติมีเดีย ซึ่งได้แก่ภาพวิดีโอและเสียงได้ และยังเป็นการสื่อสารข้อมูลในระบบดิจิตอล อีกทั้งยังไม่ต้องหมุนโทรศัพท์ก่อนการใช้งาน เนื่องจาก ADSL เชื่อมต่อกับ ISP อยู่ ตลอดเวลา เพียงทำการ Logon เท่า นั้น อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่ใช้เพิ่มเติมมาใช้กับระบบ ADSL ซึ่ง ได้แก่ ADSL Modem ในกรณีที่ต้องการ เชื่อมต่อเพื่อใช้งานประเภทบุคคลธรรมดา ซึ่งราคาจะแพงกว่าโมเด็มอนาล็อกปกติพอสมควร หรือจะเป็นอุปกรณ์ ADSL Router ที่โดยมากจะใช้เชื่อมต่อเพื่อการใช้งานในระบบที่ใหญ่กว่า ซึ่งราคาจะแพงขึ้นไปอีก ADSL มีผู้นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน แต่การขอใช้บริการ ADSL ผู้ ใช้งานจำเป็นต้องมีโทรศัพท์สายตรง ซึ่งปกติโรงแรม ส่วนใหญ่ไม่มีบริการโทรศัพท์สายตรงในแต่ละห้องพักอาศัย ดั้งนั้น ผู้เข้าพักอาศัย ในโรงแรมจึงไม่สามารถใช้บริการ ADSL ได้
ISDN
ISDN (Integrated Service Digital Network) เป็นการสื่อสาร สัญญาณร่วมผ่านสายโทรศัพท์แบบดิจิตอลสมบูรณ์แบบ สามารถรองรับการรับส่งข้อมูลผ่านโครงข่ายดิจิตอล ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ที่ให้คุณภาพและความเร็วในการส่ง ผ่านข้อมูลสูงสุดถึง 128 Kbps ซึ่งสามารถรับส่งสัญญาณเสียง ข้อมูล และภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับ องค์กรที่เริ่มต้นใช้งาน หรือองค์กรที่ต้องการให้ผู้ใช้หลายคนอยู่ในวง LAN เดียวกัน สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตพร้อมกัน โดยเชื่อมผ่านคู่สาย ISDN เพียงสายเดียว
Leased Lineอินเทอร์เน็ตบน บริการวงจรเช่า หรือ บริการเส้นทางการสื่อสารส่วนตัว ผ่านใยแก้วนำแสงดิจิตอล ด้วยอัตราเร็วคงที่ สามารถรับส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ และมีการเชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลาระหว่าง Point to Point เป็นเทคโนโลยีที่มีความเสถียรและความปลอดภัยของข้อมูลสูง ซึ่งมีความเร็วให้เลือกตั้งแต่64 Kbps ถึง 2 Mbps และ หากต้องการใช้บริการที่มีความเสถียรภาพเทียบเท่า Leased Line แต่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายที่มากกว่า 2 เครือข่ายหรือ Point to Multipoint
Firewall/VPN Firewall/VPN IP Sec
เมื่อ พื้นฐานของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตคือ โปรโตคอล TCP/IP ดังนั้นการเพิ่ม ความปลอดภัยในด้านการสื่อสาร จึงถูกมุ่งประเด็นไปที่ TCP/IP เทคโนโลยีของ IPSec ก็ เช่นเดียวกัน IETF ได้กำหนดมาตรฐาน สำหรับเหตุผลที่ว่าทำไม TCP/IP จึงถูกจับเข้ามาสวมเกราะป้องกันตัว นั้นก็เป็นเพราะข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่ว่า การทำงานบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการใช้บราวเซอร์ผ่านโปรโตคอล HTTP การ ใช้ SSL ก็ทำงานบนพื้นฐานของ TCP/IP โปรโตคอลในการรับ-ส่งเมล์อย่าง POP3 , SMTP ก็ผ่าน TCP/IP หรือ FTP , Telnet ก็ยังคงทำงานด้วย TCP/IP เรียกว่าเกิดจากการประยุกต์ TCP/IP แทบทั้งสิ้น ดังนั้นคงไม่ต้องแปลกใจที่ว่า จับโจรจับหัวหน้า ถ้าจะสร้างเกราะให้ใครสักคน ก็ต้องสร้างให้กับหัวโจกก่อนนั่นแหละ หัวโจกปลอดภัยแล้ว ลูกน้องก็อยู่ได้ IP Security หรือเรียกกันย่อๆ ว่า IPSec นั้น ประกอบด้วยอะไรบ้าง องค์ประกอบแรกที่เหมือนระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ คือ การใส่รหัส (Encryption) เพื่อป้องกัน ข้อมูลรั่วไหล ป้องกันการแอบดึงข้อมูลไปใช้ ประการต่อไปของ IPSec คือ การตรวจสอบความมีตัวตน (Authentication) และประการสุดท้ายของ IPSec คือ ความถูกต้องของข้อมูล มีระบบป้องกันการทำลาย การทำให้ข้อมูลผิดรูปไป
VPN เป็น เทคโนโลยีที่ป้องกันข้อมูลหรือข่าวสารขณะสื่อสารผ่าน อินเตอร์เน็ตหรือเครือ ข่ายธรรมดาทั่วไปที่อาศัยการสร้างที่เรียกว่าอุโมงค์การ เชื่อมต่อ รวมทั้งพิสูจน์ สิทธิที่รัดกุม และการเข้ารหัสที่มีความสลับซับซ้อน และการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลข่าวสารที่ได้รับไม่ใช่ข้อมูลที่ ถูกดัดแปลงจากผู้บุก รุก และสุดท้ายข้อมูลข่าวสารที่ได้รับจะต้องได้รับการตรวจสอบ ว่าเป็นของตัวจริง เสียงจริงหรือไม่
VPN เป็นช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเครือข่าย หรือระหว่างผู้ใช้งานกับเครือข่ายที่ให้บริการสื่อสาร ข้อมูลส่วนตัวผ่าน เครือข่าย สาธารณะ อย่างเช่น อินเตอร์เน็ต คำว่าข้อมูลส่วนตัวในที่นี้หมายถึงข้อมูลข่าวสารที่จัดส่ง จะมีลักษณะเป็น เหมือนช่องทางเฉพาะที่ถูกจัดสร้างเพื่อติดต่อกันระหว่าง ผู้ใช้งานที่เกี่ยว ข้องเท่านั้น ข้อมูลข่าวสารจะได้รับการเข้ารหัสเกือบทั้งหมด โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า tunneling การใช้งาน VPN เป็น การใช้งานอินเตอร์เน็ตหรือเครือข่ายสาธารณะทั่วไปเป็นส่วนหนึ่งของ Backbone VPN มีการพิสูจน์สิทธิแบบ End to end การพิสูจน์สิทธิทั้ง 2 ฝั่ง ข้ามไปมารวมทั้งการเข้ารหัสข้อมูลข่าวสารในรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้มีความปลอดภัย ประหยัดเงินค่าโทรศัพท์ทางไกล และค่าบำรุงรักษาอีกมากมายและด้วยเทคโนโลยี tunneling ที่ทำให้เครือข่ายหนึ่งส่งข้อมูลไปอีกเครือข่ายหนึ่ง โดยการที่มีการห่อหุ้มหรือ Encapsulation ในรูปของแพ็กเก็ตที่มาจากการทำงานในระดับ Network Layer
Frame Relay
บริการสื่อสารข้อมูลโดยด้วยเทคโนโลยี Frame Relay ในการสร้างวงจรเสมือน (Virtual Circuit) สำหรับรับส่งข้อมูล เป็นลักษณะจุดต่อจุด (Point to Point) หรือจุดต่อหลายจุด (Point to Multi-point) โดยท่านสามารถระบุค่าความเร็วรับประกันขั้นต่ำในการรับส่ง ข้อมูล หรือ Committed Information Rate (CIR) ตามที่ท่านต้องการ โดยมีความเร็ว CIR สำหรับการรับส่งข้อมูลตั้งแต่ 32Kbps – 2Mbps และท่านสามารถรับส่งข้อมูลได้ความเร็วสูงสุดตาม Port Speed ที่ มีความเร็วสูงกว่าค่า CIR ใน ช่วงเวลาที่มีการสื่อสารข้อมูลไม่คับคั่งได้อีกด้วย
บริการสื่อสารข้อมูลโดยด้วยเทคโนโลยี Frame Relay ในการสร้างวงจรเสมือน (Virtual Circuit) สำหรับรับส่งข้อมูล เป็นลักษณะจุดต่อจุด (Point to Point) หรือจุดต่อหลายจุด (Point to Multi-point) โดยท่านสามารถระบุค่าความเร็วรับประกันขั้นต่ำในการรับส่ง ข้อมูล หรือ Committed Information Rate (CIR) ตามที่ท่านต้องการ โดยมีความเร็ว CIR สำหรับการรับส่งข้อมูลตั้งแต่ 32Kbps – 2Mbps และท่านสามารถรับส่งข้อมูลได้ความเร็วสูงสุดตาม Port Speed ที่ มีความเร็วสูงกว่าค่า CIR ใน ช่วงเวลาที่มีการสื่อสารข้อมูลไม่คับคั่งได้อีกด้วย
Virtual Leased Line(VLL)
บริการสื่อสารข้อมูลเสมือนวงจรสื่อสาร ข้อมูลด้วยสัญญาณดิจิตอล โดยใช้เทคโนโลยี Asynchronous Transfer Mode (ATM) โดยสร้างวงจร เสมือน (Virtual Circuit) สำหรับรับส่ง ข้อมูลเป็นลักษณะจุดต่อจุด (Point to Point) หรือจุดต่อหลายจุด (Point to Multi-point) โดยท่านสามารถกำหนดค่ารับประกันความเร็วขั้นต่ำในการรับ ส่งข้อมูลตามที่ท่าน ต้องการ โดยมีความเร็วสำหรับวงจรการรับส่งข้อมูลตั้งแต่ 64Kbps – 2Mbps โดยมีความปลอดภัยในการสื่อสารข้อมูลสูง และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจแก่ท่าน
บริการสื่อสารข้อมูลเสมือนวงจรสื่อสาร ข้อมูลด้วยสัญญาณดิจิตอล โดยใช้เทคโนโลยี Asynchronous Transfer Mode (ATM) โดยสร้างวงจร เสมือน (Virtual Circuit) สำหรับรับส่ง ข้อมูลเป็นลักษณะจุดต่อจุด (Point to Point) หรือจุดต่อหลายจุด (Point to Multi-point) โดยท่านสามารถกำหนดค่ารับประกันความเร็วขั้นต่ำในการรับ ส่งข้อมูลตามที่ท่าน ต้องการ โดยมีความเร็วสำหรับวงจรการรับส่งข้อมูลตั้งแต่ 64Kbps – 2Mbps โดยมีความปลอดภัยในการสื่อสารข้อมูลสูง และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจแก่ท่าน
โดยปัจุบันได้พัฒนามาเป็น VVL+ ซึ่งสามารถทำงานได้ด้วยความเร็วสูง ถึง 10Mbps โดยไม่สูญเสียสเถียรภาพ และความเร็ว ในราคาที่ สามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยากเย็นนักไม่เหมือนเมื่อหลายๆ ปีก่อนที่ราคาสูงจนไม่สามารถนำมาใช้งานได้ในระบบขนาดกลางและเล็ก
ขอ ขอบคุณข้อมูลจาก กระทรวง ICTหัว ข้อ: IT knowledge
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ลิงค์แนะนำ
คลังบทความ
- เมษายน (1)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น